นนทบุรี – รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการกำจัดขยะและผลิตไฟฟ้า อบจ.นนทบุรี เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
วันนี้ (๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่สำนักงานก่อสร้างโครงการ หมู่ ๒ ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างและบริหารจัดการระบบกำจัดขยะมูลฝอยและผลิตไฟฟ้าขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี รวมถึงติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจาก นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นางสาวปาณิสรา กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.เดชรพี คงดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี นางสาวสะอาด พิมพ์สมบูรณ์ นายอำเภอไทรน้อย และ พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี
โครงการก่อสร้างและบริหารจัดการระบบกำจัดขยะมูลฝอยและผลิตไฟฟ้าขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เป็นโครงการที่ให้เอกชนร่วมลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ พ.ศ. ๒๕๓๕ เนื่องจากมีมูลค่าเกินกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๙ ให้ดำเนินการตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในรูปแบบ BOT (Build-Operate-Transfer) คือ ให้เอกชนก่อสร้าง บริหารจัดการ และส่งมอบให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีเมื่อสิ้นสุดสัญญา
โครงการดังกล่าวมีกำลังการกำจัดขยะมูลฝอย ๑,๐๐๐ ตันต่อวัน และกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้ง ๒๐ เมกะวัตต์ โดยได้เปิดประมูลในปี ๒๕๖๒ และบริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี ๘ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล และได้ลงนามในสัญญาเมื่อปี ๒๕๖๓ ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง และจะเป็นศูนย์กลางรองรับขยะมูลฝอยจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในจังหวัดนนทบุรี
โครงการใช้ระบบเตาเผาขยะเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งมีระบบควบคุมมลพิษให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด ถือเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ปัญหาการจัดหาที่ดินเพื่อฝังกลบขยะ ลดปัญหากลิ่นเหม็นจากการย่อยสลายขยะที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ตำบลคลองขวางและพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย และยั่งยืนให้กับจังหวัดนนทบุรีในระยะยาว
ประยงค์ วิลัย / ภาพข่าว