นนทบุรี – เรือขนส่งสินค้าเสียหลักพุ่งชนบ้านเรือนประชาชน พังเสียหาย 3 หลัง ชาวบ้านหนีตายกลางดึก
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดเหตุเรือโยงบรรทุกสินค้าเฉี่ยวชนบ้านเรือนประชาชน เลขที่ 27/1, 27/2 และ 27 หมู่ 1 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ส่งผลให้บ้านทั้ง 3 หลังเสียหายหนักถึงขั้นจมลงแม่น้ำเจ้าพระยา
น.ส.สายพิณ คุ้มวณิชย์ อายุ 66 ปี ผู้อาศัยบ้านเลขที่ 27/2 เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง ได้ยินเสียงเรือวิ่งก่อนเกิดเสียงดังสนั่นบริเวณบ้าน พร้อมเห็นประกายไฟเหมือนไฟช็อต ขณะนั้นเธอนอนอยู่กับพี่สาวและหลาน ทั้งหมดตกใจอย่างมากและไม่สามารถออกทางประตูได้ จึงต้องปีนออกหน้าต่าง โดยมีเพื่อนบ้านมาช่วยรับ หลังเหตุบ้านที่เพิ่งซ่อมเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเสียหายทั้งหลัง ค่าซ่อมกว่า 300,000 บาท ขณะที่บ้านพี่ชายซึ่งซ่อมแซมใหม่ทั้งหลังมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ก็พังเสียหายอยู่ไม่ได้เช่นกัน
ด้าน นายไพรัช รอดเจียม อายุ 66 ปี ผู้อาศัยบ้านเลขที่ 27/1 กล่าวว่า ได้ยินเสียงดังขณะนอนหลับ ก่อนพบว่าน้ำเอ่อเข้าบ้านจนถึงระดับหน้าอก ต้องปีนออกทางหน้าต่างเพราะกลัวไฟช็อต บ้านของตนเพิ่งซ่อมใหญ่เสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท และเป็นหลังที่เสียหายหนักที่สุด
จากการสอบถาม นายสาคร มะคะวัน อายุ 30 ปี คนขับเรือโยง ระบุว่า ได้ขับเรือบรรทุกยิปซั่มจากบางปะอินจะไปส่งที่สมุทรปราการ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ กระแสน้ำเจ้าพระยาไหลแรง ประกอบกับพวงมาลัยเรือเกิดขัดข้อง ทำให้เรือเสียหลักเฉี่ยวชนบ้านเรือนประชาชน
กิ๊บ อายุ 28 ปี ภรรยาของนายสาคร เล่าว่า ขณะกำลังนอนหลับบนเรือ ได้ยินเสียงคล้ายเรือชน จึงรีบตื่นมาช่วยประคองพวงมาลัยให้เรือลอยตามกระแสน้ำ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี หลังควบคุมเรือให้หยุดได้ ทั้งคู่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด แล้ว และยอมรับว่าเรือไม่มีประกันภัย
นายอำนาจ สอนหมวก ผู้อำนวยการกรมเจ้าท่าสาขานนทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบใบอนุญาตขับเรือ เอกสาร ปก. และสภาพเครื่องจักรเรือทั้งหมด ส่วนประเด็นผู้กระทำผิด ต้องรอผลการสืบสวนจากตำรวจ หากพบความผิดจะต้องชดใช้ค่าเสียหายตามกฎหมาย
ในวันเดียวกัน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายอำนาจ สอนหมวก ผอ.กรมเจ้าท่าสาขานนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือนประชาชนทั้ง 3 หลัง
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้โชคดีที่ชาวบ้านสามารถหนีออกมาได้ทัน มีบาดเจ็บเล็กน้อย แต่บ้านเสียหายหนักจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ โดยจังหวัดและท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือด้านถุงยังชีพและความเป็นอยู่ พร้อมประสานจัดหาที่พักชั่วคราวให้ประชาชน
ส่วนเรื่องการเยียวยาและค่าเสียหาย จะประสานกรมเจ้าท่าและอำเภอให้เจ้าของเรือเข้ามารับผิดชอบ ขณะเดียวกันฝ่ายสืบสวนจะตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียด ทั้งตัวคนขับ สภาพเรือ รวมถึงสภาพแวดล้อม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ผู้ว่าฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติผู้ขับเรือต้องมีใบอนุญาต โดยเฉพาะเรือลากจูงประเภทนี้ที่ต้องควบคุมอย่างเข้มงวด พร้อมกำชับให้กรมเจ้าท่าทุกพื้นที่เพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการเดินเรือ เนื่องจากช่วงนี้ระดับน้ำสูงและกระแสน้ำแรง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต
ประยงค์ วิลัย / ภาพข่าว















